ค่าน้ำมันรถพนักงาน ทำยังไง ให้เป็นรายจ่ายบริษัทได้

ค่าน้ำมันรถพนักงาน ทำยังไง ให้เป็นรายจ่ายบริษัทได้

ค่าน้ำมันรถยนต์พนักงาน ทำยังไง? ให้เป็นรายจ่ายบริษัทได้

หลายกิจการต้องให้พนักงานไปติดต่อลูกค้า หรือ ไปทำธุระของบริษัท ซึ่งหนีไม่พ้นการเบิกค่าน้ำมัน ดังนั้น มาดูกันว่า ว่าทำยังไงกันค่ะ

บริษัทลงรายจ่ายได้

ค่าน้ำมันรถยนต์ที่บริษัทลงรายจ่ายได้ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้

พนักงานไม่ถือเป็นเงินได้

  1. ต้องเป็นค่าน้ำมันที่เกี่ยวข้องกับกิจการเท่านั้น ต้องมีระเบียบอนุญาตเบิกจ่ายค่าน้ำมัน พร้อมบันทึกการเดินทาง จากที่ไหนไปยังที่ไหน ระยะทาง ชื่อเจ้าของรถยนต์ หมายเลขทะเบียนรถยนต์ให้ชัดเจน หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ ถือเป็นรายจ่ายส่วนตัว กิจการจะถือเป็นรายจ่ายต้องห้าม ตามมาตรา 65 ตรี รายจ่ายต้องห้าม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่า รายจ่ายต้องห้าม
  2. ต้องมีบิลน้ำมัน / ใบกำกับภาษีจากปั๊มน้ำมัน ซึ่งต้องระบุหมายเลขทะเบียนรถยนต์บนใบกำกับภาษี ซึ่งจะพิมพ์ดีด เขียนด้วยหมึก ประทับตรายาง หรือออกด้วยคอมพิวเตอร์ก็ได้ ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มฉบับที่ 39 ข้อ 4

ค่าน้ำมันรถยนต์พนักงานไม่ถือเป็นเงินได้ ต้องมีหลักฐาน

พนักงานจะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำค่าน้ำมันในกรณีนี้ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ตามมาตรา 42(1) จะต้องมีหลักฐานการใช้รถยนต์และพิสูจน์จนเป็นที่เชื่อถือ ว่าได้ไปปฏิบัติหน้าของตนเองเพื่อบริษัท ไม่ใช่การนำรถยนต์ไปใช้ส่วนตัว มีระเบียบอนุญาตให้มีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันรถยนต์ได้และมีหนังสืออนุญาตพร้อมทั้งการบันทึกอนุญาตให้เดินทางไปติดต่องานจากที่ใดถึงที่ใด ระยะเวลาทางเท่าใด ชื่อเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียนรถยนต์ใบเสร็จรับเงินค่าน้ำมันรถยนต์ที่มีการระบุชื่อเจ้าของรถยนต์ หมายเลขทะเบียนรถยนต์ให้ชัดเจน

ข้อหารือกรมสรรพากร กค 0706/6969

1.บริษัทฯ จ่ายค่าน้ำมันรถยนต์ให้กับพนักงานของบริษัทฯ ตามจำนวนที่จ่ายจริงในกรณีที่พนักงานใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปทำงานให้บริษัทฯ ถือเป็นรายจ่ายเกี่ยวกับการประกอบกิจการของบริษัทฯบริษัทฯ มีสิทธินำค่าน้ำมันดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ ไม่ถือเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับค่าน้ำมันรถยนต์ส่วนที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปเกินกว่าจำนวนที่พนักงานของบริษัทฯ ได้จ่ายไปจริง ถือเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว ต้องห้ามมิให้ถือเป็นรายจ่าย ตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร

2.กรณีพนักงานจะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำค่าน้ำมันในกรณีนี้ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ตามมาตรา 42(1) แห่งประมวลรัษฎากร นั้น จะต้องมีหลักฐานการใช้รถยนต์และพิสูจน์จนเป็นที่เชื่อถือแก่การตรวจสอบไต่สวนของเจ้าพนักงานประเมิน ว่าได้จ่ายไปโดยสุจริตตามความจำเป็นเฉพาะในการที่ต้องปฏิบัติการตามหน้าที่ของตนและได้จ่ายไปทั้งหมดเพื่อการปฏิบัติงานตามหน้าที่นั้นด้วยประกอบกับบริษัทฯ ต้องมีระเบียบอนุญาตให้มีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันรถยนต์ได้และมีหนังสืออนุญาตพร้อมทั้งการบันทึกอนุญาตให้เดินทางไปติดต่องานจากที่ใดถึงที่ใด ระยะเวลาทางเท่าใด ชื่อเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียนรถยนต์ใบเสร็จรับเงินค่าน้ำมันรถยนต์ที่มีการระบุชื่อเจ้าของรถยนต์ หมายเลขทะเบียนรถยนต์ให้ชัดเจน

สามารถเข้าไปดูข้อหารือกรมสรรพากร ที่เกี่ยวข้อง ได้ที่

ข้อหารือ กค. 0706/6969 https://www.rd.go.th/35963.html

ข้อหารือ 0702/1121 https://www.rd.go.th/52525.html.

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์เก็บไว้ดูและแชร์ให้เพื่อนๆ กันได้นะค๊า

ขอบคุณข้อมูล : Dharmniti / กรมสรรพากร